กลางสายฝนแห่งน้ำสงกรานต์ ณ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2568 แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย พร้อม ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางร่วมงานสงกรานต์ในฐานะผู้นำและผู้มีสายใยลึกซึ้งกับเมืองเหนือ ภาพการเดินเคียงข้างกันของสองรุ่นแห่งตระกูลชินวัตร ท่ามกลางผู้คนและเสียงหัวเราะ กลายเป็นปรากฏการณ์ที่ชัดเจนกว่าคำปราศรัยใด ๆ พร้อมสะท้อนนัยทางการเมืองที่ไม่อาจละสายตา
กลับสู่ฐานที่มั่นเดิม เพื่อเดินเกมใหม่
เชียงใหม่ ไม่ใช่เพียงแค่เมืองจัดงานสงกรานต์ แต่คือ “เวทีทางใจ” ที่บ้านชินวัตรมีรากหยั่งลึก ภาพ แพทองธาร เดินฝ่าสายน้ำ พร้อมรอยยิ้มจริงใจ โดยไม่มีการเว้นระยะจากประชาชน ไม่เพียงตอกย้ำบทบาทของผู้นำหญิง แต่ยังปลุกภาพจำของประชาชนที่มีต่ออดีตนายกรัฐมนตรีอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในพื้นที่เดิม
แพทองธาร ปรากฏตัวในชุดไทยแบบเรียบง่าย ร่วมเปิดอุโมงค์น้ำที่ข่วงประตูท่าแพ และร่วมกิจกรรมที่เมญ่าสแควร์ โดยไม่มีคำแถลงใด แต่ด้วยการกระทำที่แสดงถึงความเข้าถึงง่ายและความเป็นมิตร เธอใช้ “การอยู่ตรงนั้น” แทนการพูดบนเวที สร้างพลังเงียบที่ทรงอิทธิพลกว่าคำปราศรัยใด ๆ ในช่วงเวลานั้น
การสื่อสารด้วยภาพที่ทรงพลังยิ่งกว่าคำพูด
ในยุคที่การเมืองเต็มไปด้วยวาทกรรม ภาพผู้นำหญิงเล่นน้ำกับประชาชน กลับกลายเป็นการส่งสารที่เรียบง่ายแต่หนักแน่น การเมืองไม่จำเป็นต้องพูดเสมอไป แค่ให้กล้องจับ แล้วให้ใจคนจำก็เพียงพอ และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ “นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก” ที่ใช้เทศกาลสงกรานต์เป็นเวทีเปิดบทใหม่ของการเมืองไทย
การปรากฏตัวของ ทักษิณ ชินวัตร เคียงข้างบุตรี โดยไม่มีถ้อยแถลงการเมือง แต่เพียงยืนอยู่ร่วมกับประชาชน คือการปลุกสัญญะบางอย่างในใจคนเมืองเหนือให้กลับมา เป็นเสมือนการส่งไม้ผลัดอย่างเป็นธรรมชาติจากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นถัดไป พร้อมวางยุทธศาสตร์เชิงสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้งเกินกว่าการหาเสียง
บรรยากาศวันนั้นไม่เพียงเปียกไปด้วยสายน้ำ แต่ชุ่มไปด้วย “สัญญาณของการคืนชีพ” บางอย่าง
บางอย่างที่ซ่อนอยู่ในรอยยิ้ม มือเปียกน้ำ และเสียงหัวเราะของประชาชน

ข้อมูล/ภาพ : โพสต์ทูเดย์