รถหรู – มือสาม – วัด ช่องว่าง หรือช่องทาง? คำถามที่ประกันสังคมต้องตอบ

รถหรูอย่าง Toyota Alphard 2.5 Hybrid SRC และ Volkswagen T6 ปรากฏอยู่ในบัญชีทรัพย์สินของสำนักงานประกันสังคม ที่จัดซื้อโดยใช้ “เงินของผู้ประกันตน” พร้อมชื่อโครงการสวยหรูว่า “เพื่อสนับสนุนภารกิจกระทรวงแรงงาน” คำถามใหญ่ที่ตามมาคือ—สนับสนุนใคร? และภารกิจไหน?

แน่นอนว่าในกระทรวงแรงงานไม่มีรัฐมนตรีคนใดจำเป็นต้องเดินทางไปประชุมต่างประเทศด้วยรถ Alphard ใหม่เอี่ยมที่มีม่านไฟฟ้าและเบาะหนังปรับร้อนอัตโนมัติ นั่นไม่ใช่การประชุมสวัสดิการแรงงาน แต่คือการประชุมเหนือระดับที่มีเพียงไม่กี่คนบนหอคอยงาช้างเท่านั้นที่นั่งเบาะหลังได้

รถราชการมือหนึ่ง… สู่มือสาม โดย “วัด” เป็นตัวกลาง?

ข้อมูลที่สหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี เขต 7 เปิดเผยชี้ให้เห็นถึง “กระบวนการแปลงสภาพ” รถราชการที่ชวนให้ขนลุก — รถจากสำนักงานประกันสังคม จ.สกลนคร โอนให้วัดสระแก้ว จากนั้นวัดโอนให้บุคคลธรรมดาอีกทอดหนึ่ง

ไม่ใช่เรื่องผิด หาก “วัด” มีสถานะเป็นองค์กรสาธารณกุศล และการโอนนั้นเป็นไปตามกฎหมาย

แต่…วัดมีเจตนาใช้รถเพื่อกิจของสงฆ์ หรือเพื่อ “อุปถัมภ์” ผู้โชคดีนอกระบบราชการ?

เมื่อรถราชการกลายเป็นทรัพย์ของบุคคลธรรมดาผ่านวัดที่ไม่มีระบบตรวจสอบ อาจไม่ใช่แค่ช่องโหว่ของกฎหมาย แต่คือ “ช่องทาง” ที่เปิดให้ของหลวงกลายเป็นของส่วนตัวอย่างแนบเนียน

ทำไมไม่ถาม… ว่าผิดหรือไม่?

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ แต่มันคือ “การตั้งคำถามต่อเจตนา” ของระบบราชการ

กองทุนประกันสังคม ไม่ใช่เงินงบประมาณแผ่นดิน แต่เป็นเงินของลูกจ้าง – นายจ้าง – และรัฐ ร่วมกันสมทบเพื่อประโยชน์ของผู้ประกันตน มิใช่เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริหารได้รถหรูขับ

การโอนพัสดุจากหน่วยงานรัฐให้วัด ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ควรถูกติดตามว่าทรัพย์นั้นถูกใช้ “เพื่อการกุศล” หรือ “เป็นสะพานให้รถราชการกลายเป็นรถบ้าน”

ระบบราชการอาจไม่ผิด… แต่สังคมอาจไม่ให้อภัย

แม้ในตัวบทกฎหมายอาจมีช่องทางให้โอน ให้บริจาค หรือแม้กระทั่ง “เปลี่ยนมือ” ไปได้ถึงมือที่ 3 โดยไม่ผิดระเบียบ หากทำตามเงื่อนไขทุกข้อ

แต่คำถามสำคัญไม่ใช่แค่ว่า “ทำได้ไหม?”
คำถามที่ควรถามดังๆ คือ “ควรทำหรือไม่?”

เมื่อการจัดซื้อทรัพย์สินของรัฐไม่ตอบโจทย์ประชาชน
เมื่อทรัพย์สินของรัฐหลุดไปถึงมือเอกชนโดยไร้ร่องรอยความจำเป็น
เมื่อชื่อของ “วัด” ถูกใช้เป็นช่องกลาง
…สังคมย่อมตั้งข้อสงสัยได้ว่า นี่คือ “การฟอกพัสดุ” โดยใช้วัดเป็นเครื่องมือหรือไม่?

ถึงเวลาปรับระบบ หรือจะปล่อยให้หลุมดำนี้โตจนกลืนกองทุน?

หน่วยงานอย่าง สตง. ป.ป.ช. และผู้มีหน้าที่ตรวจสอบต้องไม่ทำเป็น “ไม่เห็น”
หากปล่อยให้ระบบนี้ดำเนินต่อไปโดยไม่มีใครตั้งคำถาม
สุดท้าย “รถหรู” อาจมีอีกหลายคันที่จอดในบ้านคนธรรมดา
ในขณะที่คนประกันตนต้องรอเตียง รอเงินชดเชย หรือรอการรักษา

เพราะเงินทุกบาทของประกันสังคม คือเงินของแรงงาน ไม่ใช่เงินแต่งรถให้ใครหน้าไหนขับเฉิดฉาย
และหากเสียงแรงงานไม่ดังพอ… เราจำเป็นต้องเขียนให้มันดังขึ้น

ประกันสังคม, รถหรูราชการ, บริจาครถให้วัด, เงินผู้ประกันตน, พัสดุหลวง

บทเรียนมูลค่าหมื่นล้าน ยิ่งลักษณ์ กับชะตากรรมปลายสายของประชานิยม

ญี่ปุ่นถอย จีนรุก! โรงงานดังนวนครปิดฟ้าผ่า พนักงานนับร้อยตกงาน