ในห้วงเวลาที่กระแสกดดันทางการเมืองพุ่งสูง บทวิเคราะห์จาก จักรภพ เพ็ญแข ในรายการ “เปิดปาก กับ ภาคภูมิ” ของ ไทยรัฐทีวี ได้สะท้อนมุมมองเชิงลึกถึงเหตุผลที่ พรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของ แพทองธาร ชินวัตร ยังไม่ตัดสินใจ “ยุบสภา” แม้จะเผชิญกับปัญหาคลิปเสียงและความขัดแย้งกับกัมพูชา โดยชี้ว่าการยุบสภาไม่ใช่ทางออกในจังหวะที่พรรคยังไม่มีความได้เปรียบ พร้อมย้ำความจำเป็นต้องเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชนแทนการหนีวิกฤต
จักรภพ เพ็ญแข อธิบายว่า การยุบสภาในเวลานี้จะส่งผลเสียโดยตรงกับพรรคเพื่อไทย เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะแพ้เลือกตั้ง เนื่องจากฐานเสียงยังไม่ฟื้นตัวจากความไม่พอใจของประชาชน ทั้งในด้านการเมืองและเศรษฐกิจ โดยมีคำกล่าวตรงไปตรงมาว่า “จะยุบทำไม ยุบก็ไม่ได้เป็นรัฐบาลต่อสิ”
เขาชี้ให้เห็นว่า การยุบสภาเป็นกลยุทธ์ในยามได้เปรียบ เพื่อช่วงชิงจังหวะการเมือง ไม่ใช่การหนีปัญหาในช่วงที่ฐานเสียงยังไม่มั่นคง อีกทั้งยังไม่มีความผิดใดที่นำไปสู่เหตุแห่งการยุบสภาตามหลักการทางการเมือง
ยึดมั่นหลักการ “ทำงานต่อ” เพื่อพลิกความเชื่อมั่น
หนึ่งในเหตุผลหลักที่เพื่อไทยยังไม่ยุบสภาคือ ความต้องการสานต่อภารกิจเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงที่ความนิยมของรัฐบาลยังถูกตั้งคำถาม การลาออกหรือยุบสภาจะตัดโอกาสในการชี้แจงนโยบายและผลงานที่กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ
จักรภพ ยังชี้ว่า การเลือกตั้งใหม่ต้องใช้งบประมาณมากกว่า 4,000 ล้านบาท และจะกลายเป็นข้อครหาเรื่องความฟุ่มเฟือยทางการเมืองในเวลาที่เศรษฐกิจกำลังเปราะบาง ขณะเดียวกัน การยุบสภาจะเท่ากับเปิดทางให้ฝ่ายตรงข้ามที่จ้องรอโอกาสในการช่วงชิงอำนาจทางการเมือง
คลิปเสียง-ความขัดแย้งกัมพูชา ไม่ใช่เหตุให้ยุบสภา
ในมุมมองของจักรภพ ปัญหาคลิปเสียงที่หลุดออกมาไม่ใช่ความขัดแย้งภายใน แต่เป็นความพยายามจากบุคคลบางฝ่ายที่ใช้ประเด็นนี้เพื่อจุดชนวนการเมือง ทั้งที่คลิปไม่ได้บ่งชี้ถึงการกระทำผิดกฎหมายหรือจริยธรรมอย่างร้ายแรง
กรณีปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จักรภพมองว่าเป็นเรื่องอธิปไตยที่รัฐบาลไทยและกองทัพกำลังจัดการอย่างรอบคอบ พร้อมเปิดเผยว่ามีการดำเนินมาตรการเข้ม เช่น การควบคุมการส่งออกไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต น้ำมัน และสินค้าไปยังกัมพูชา โดยมีเส้นตาย 3 เดือน เพื่อกดดันให้ฝ่ายตรงข้ามยอมลดท่าที
แนวทางของรัฐบาลไทยในปัญหานี้ คือ การใช้การทูตทวิภาคี หลีกเลี่ยงการยั่วยุ และมุ่งเน้นการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ว่าจะเป็นคอลเซ็นเตอร์ การพนันออนไลน์ หรือธุรกิจใต้ดินอื่น ๆ ซึ่งจักรภพระบุว่าเป็นความพยายามที่สะท้อนถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลมากกว่าการใช้วิกฤตเพื่อเปลี่ยนเกมการเมือง

ชี้อย่าตกเป็นเครื่องมือของกัมพูชา
จักรภพมองว่า สมเด็จฮุนเซน และ ฮุน มาเนต ผู้นำกัมพูชา มีความตั้งใจใช้ประเด็นความมั่นคงเพื่อเรียกศรัทธาจากประชาชนในประเทศตน โดยไม่ใช่การตอบโต้ไทยอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันมาตรการทางเศรษฐกิจของไทยอาจทำให้แรงกดดันภายในกัมพูชาเพิ่มสูงขึ้น จึงขอให้คนไทย สนับสนุนรัฐบาลและกองทัพ แทนที่จะปล่อยให้ความขัดแย้งทางการเมืองกลายเป็นข้อได้เปรียบของประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องการใช้คลิปหลุดเป็นเครื่องมือ
ในตอนท้าย จักรภพระบุว่า คำว่า “แบกรัฐบาล” ที่หลายคนกล่าวถึง ต้องเข้าใจในมุมของการ “แบกหลักการ” แบกเหตุผล เพื่อให้ผ่านวิกฤตด้วยความมั่นคง ไม่ใช่การยอมจำนนต่อแรงกดดันของอารมณ์และกระแสสังคมที่อาจไม่สอดคล้องกับภาพรวมของประเทศ