การเมืองไทยคึกคักอีกครั้ง เมื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินหน้าปรับคณะรัฐมนตรี “ครม.อิ๊งค์ 2” อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2568 ภายหลังการถอนตัวของ พรรคภูมิใจไทย จากการร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา การปรับทัพครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อเติมเต็มตำแหน่งที่ว่างลง 8 ตำแหน่ง พร้อมเสริมความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ โดยการประชุมหารือกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลได้จัดขึ้นที่ โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ เพื่อจัดสรรเก้าอี้และวางแผนการทำงานต่อไป ท่ามกลางความสนใจของสาธารณชนและนักวิเคราะห์ถึงทิศทางการเมืองนับจากนี้
ใครได้เก้าอี้สำคัญใน “ครม.อิ๊งค์ 2”
การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้มีการโยกย้ายและแต่งตั้งบุคคลสำคัญหลายตำแหน่ง เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์และภารกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนในกระทรวงหลักที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการบริหารราชการแผ่นดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับความไว้วางใจให้เข้ามารับผิดชอบในตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งถือเป็นกระทรวงสำคัญที่มีบทบาทอย่างยิ่งต่อการปกครองและการพัฒนาท้องถิ่น
นอกจากนี้ ยังมีการแต่งตั้ง นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช จากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญจาก พรรคประชาธิปัตย์ ที่เข้ามาเสริมทัพในกระทรวงนี้ บ่งชี้ถึงการกระจายอำนาจและการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างใกล้ชิด

เก้าอี้ดนตรีพรรคร่วม
การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงในกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและแรงงาน โดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานและแก้ปัญหาการว่างงาน ขณะที่ นายจักรพงษ์ แสงมณี ได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายด้านเทคโนโลยีดิจิทัล
สำหรับกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรและอุดมศึกษา นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เข้าดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ทั้งสองท่านเป็นตัวแทนจาก พรรคพลังประชารัฐ ที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับรัฐบาลในด้านการพัฒนาการเกษตรและการศึกษา ส่วนในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีชื่อของ นายชัยชนะ เดชเดโช จาก พรรคประชาธิปัตย์ ที่คาดว่าจะเข้ามารับผิดชอบ ซึ่งเป็นการเพิ่มบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์ในรัฐบาล
ภายหลังการประชุมหารือเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2568 น.ส.แพทองธาร ได้ยืนยันถึงเสถียรภาพของรัฐบาลและความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมถึงสถานการณ์ชายแดนกัมพูชา ผู้นำพรรคร่วมรัฐบาลต่างแสดงจุดยืนสนับสนุนนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่ โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอให้แต่ละพรรคส่งรายชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการตรวจสอบคุณสมบัติ คาดว่าจะสามารถสรุปรายชื่อทั้งหมดได้ภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ มีกระแสข่าวว่า พลเอก สุนัย ประภูชะเนย์ อดีตผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขณะที่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน คาดว่าจะยังคงดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อไป