“อนุทิน” หนุน “ไชยชนก” สอบปมสินบน 40 ล้าน ย้ำรัฐบาลไม่ทุจริต

เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่อิมแพค เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันต่อสื่อมวลชนว่ารัฐบาลภายใต้การนำของตนจะไม่ยอมให้การทุจริตเกิดขึ้น โดยกล่าวถึงกรณีที่ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ถูกพาดพิงว่ามีการเสนอเงินสินบนเดือนละ 40 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่าการตรวจสอบต้องเดินหน้าอย่างจริงจัง พร้อมเชื่อมั่นว่าไชยชนกเป็นคนที่เกลียดการทุจริตและไม่มีทางเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว

“ไม่เกิดในรัฐบาลของผม”

นายอนุทิน ระบุชัดว่า ข้อกล่าวหาเรื่องสินบน 40 ล้านบาทต่อเดือน ไม่ได้เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดปัจจุบัน และหากมีเบาะแสหรือข้อเท็จจริงใด ๆ จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียด รื้อค้น และเปิดเผยต่อสังคมเพื่อให้เกิดความโปร่งใส พร้อมย้ำว่า “ในรัฐบาลของผมจะไม่มีการโกง ไม่ว่าระยะเวลา 4 เดือน 4 ปี หรือแม้แต่ 40 ปี”

นายกรัฐมนตรีชี้ว่า การตรวจสอบไม่ใช่เรื่องยาก และยิ่งหากมีข้อเท็จจริงชัดเจนก็จะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในมาตรการปราบปรามการทุจริตของรัฐบาล

ไชยชนกถูกจับตา แต่มั่นใจไร้มลทิน

เมื่อถูกถามถึงกรณีที่ประชาชนกำลังจับตา นายไชยชนก ชิดชอบ อย่างใกล้ชิด นายอนุทินยืนยันว่า ยังไม่ได้พูดคุยโดยตรง แต่ไม่เป็นห่วง เพราะรู้ดีว่าสำหรับไชยชนกแล้ว เรื่องทุจริตถือเป็นเรื่องใหญ่ หากพบความไม่ชอบมาพากล เขาจะไม่มีวันปล่อยผ่านอย่างแน่นอน

นายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไชยชนกเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นและศึกษาเรื่องต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง เมื่อมั่นใจแล้วจะเดินหน้าตรวจสอบต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าในที่สุดความจริงจะถูกเปิดเผย และผู้ที่เกี่ยวข้องหากมีจริงจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงความผิดได้

ประกาศเดินหน้าสอบสวนสินบน

นายอนุทิน เปิดเผยด้วยว่า ได้มีการแต่งตั้ง ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้เป็นประธานการสอบสวน เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ พร้อมยืนยันว่าทุกขั้นตอนจะดำเนินไปโดยไม่ละเว้นผู้ใด

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอความมั่นใจจากประชาชนว่า รัฐบาลของตนจะไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น โดยไม่จำกัดว่าระยะเวลาการดำรงตำแหน่งจะสั้นหรือยาว เพราะสิ่งสำคัญคือการสร้างมาตรฐานที่โปร่งใสให้กับการเมืองไทย

การเมืองโปร่งใสคือโจทย์หลัก

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลที่ตนเป็นผู้นำจะต้องไม่มีการคอร์รัปชันอย่างเด็ดขาด เพราะหากไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ ย่อมไม่อาจดึงผู้เชี่ยวชาญหรือบุคคลภายนอกการเมืองเข้ามาช่วยงานได้ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันจับตาและตรวจสอบ เพื่อสร้างความโปร่งใสในระบอบประชาธิปไตย

พิพัฒน์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบฯ ย้ำภูมิใจไทยเตรียมเลือกตั้งใต้ล่วงหน้า

“ธรรมนัส”เดือด เตรียมฟ้องโรม ปมโยงสแกมเมอร์ ย้ำไม่ยุ่งธุรกิจสีเทา