ศรีสุวรรณร้อง ป.ป.ช. สอบไชยชนก ปมไม่แจ้งความคนเสนอสินบน 40 ล้าน

วันที่ 3 ตุลาคม 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องให้ไต่สวนและชี้มูลความผิด นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หลังเจ้าตัวเปิดเผยกลางรัฐสภาว่ามีการเสนอสินบน 40 ล้านบาทต่อเดือนเพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีกับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย แต่กลับไม่ได้แจ้งความเอาผิดผู้เสนอสินบน สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง

เข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

นายศรีสุวรรณ ระบุว่า คำให้การของ นายไชยชนก ถือเป็นการยอมรับว่ามีการเสนอสินบนต่อเจ้าหน้าที่รัฐจริง แต่กลับไม่ดำเนินการตามกฎหมายทันที การละเว้นเช่นนี้อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและอาจฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

เขายกตัวอย่างว่าการติดสินบนเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144 ถือเป็นความผิดสำเร็จ แม้เจ้าหน้าที่จะไม่รับสินบนก็ตาม ดังนั้นในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและว่าที่รัฐมนตรีในขณะนั้น นายไชยชนกควรระบุและดำเนินคดีต่อผู้ที่พยายามให้สินบน ไม่ใช่ปล่อยผ่านจนกลายเป็นข้อกังขาในสังคม

คำพูดกลางสภา จุดกระแสวิจารณ์ร้อนแรง

กรณีดังกล่าวเริ่มต้นจากการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 29-30 กันยายน 2568 โดยระหว่างการอภิปราย นายไชยชนก ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า “ยังไม่ทันเข้ารับตำแหน่ง มีผู้ติดต่อผ่านเพื่อนสมาชิก เสนอเงินเดือนละ 40 ล้านเพื่อให้เพิกเฉยต่อการจับกุมคอลเซ็นเตอร์และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย”

คำกล่าวนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนในแวดวงการเมืองและสังคม เนื่องจากเป็นการเปิดเผยข้อมูลที่สะท้อนปัญหาการทุจริตเชิงระบบ แต่กลับไม่มีการดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความจริงใจในการปราบปรามการคอร์รัปชัน

ข้อโต้แย้งต่อการสั่งการปลัดกระทรวงดีอี

ภายหลังถูกตั้งคำถาม นายไชยชนก อ้างว่าได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ นายศรีสุวรรณ เห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่เพียงพอ เพราะปลัดกระทรวงเป็นเพียงข้าราชการประจำ ไม่สามารถตรวจสอบบุคคลภายนอกที่ติดต่อผ่านเพื่อนสมาชิกสภาฯ ได้

เขาตั้งข้อสงสัยว่าการสั่งการดังกล่าวอาจเป็นเพียงการแก้เกี้ยว หรือ “มวยล้มต้มคนดู” เพื่อเบี่ยงประเด็นและหลีกเลี่ยงการแจ้งความอย่างเป็นทางการ

ความเสี่ยงต่อการถูกชี้มูลความผิดร้ายแรง

นายศรีสุวรรณ ย้ำว่า หาก นายไชยชนก ไม่ดำเนินการแจ้งความด้วยตนเองตามครรลองกฎหมาย ย่อมมีความเสี่ยงที่จะถูกพิจารณาว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 219 ซึ่งโทษสูงสุดอาจถึงขั้นถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต และถูกห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองทุกประเภท

ปัจจุบันเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. ซึ่งสังคมจับตามองว่าการไต่สวนจะชี้มูลความผิดหรือไม่ เนื่องจากเป็นคดีที่มีผลต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาลและการปราบปรามการทุจริตในประเทศวันที่ 3 ตุลาคม 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องให้ไต่สวนและชี้มูลความผิด นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หลังเจ้าตัวเปิดเผยกลางรัฐสภาว่ามีการเสนอสินบน 40 ล้านบาทต่อเดือนเพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีกับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย แต่กลับไม่ได้แจ้งความเอาผิดผู้เสนอสินบน สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง

ดร.สุชัชวีร์ เปิดตัว “พรรคไทยก้าวใหม่” ชูการศึกษาเป็นยาแก้จน

โฆษกกองทัพบกย้ำยึดหลักมนุษยธรรม ปมผลักดันกัมพูชาออกจากสระแก้ว