ธรรมนัส-ณัฐพล ถึงแล้ว!นั่งบัญชาการน้ำท่วมหาดใหญ่ ระดมกำลังอพยพประชาชน

ธรรมนัสลงพื้นที่หาดใหญ่บัญชาการน้ำท่วมใต้ สั่งระดมกำลังทุกเหล่าทัพ ตั้งแต่เรือเจ็ตสกีแรงม้าสูง เรือหางยาว หน่วยซีลจนถึงเฮลิคอปเตอร์ พร้อมเปิดประตูระบายน้ำทุกบาน คาดคลี่คลายใน 3 วัน


สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังวิกฤต เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับหน้าที่บัญชาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังหลายชุมชนถูกตัดไฟและกระแสน้ำไหลเชี่ยวจนเรือท้องแบนไม่สามารถเข้าถึงได้ หน่วยงานรัฐทุกด้านเร่งระดมกำลัง ตั้งแต่เรือเจ็ตสกีแรงม้าสูง เรือหางยาว หน่วยซีล ไปจนถึงเฮลิคอปเตอร์ เพื่ออพยพประชาชนติดค้าง พร้อมเปิดประตูระบายน้ำทุกบานเพื่อเร่งลดระดับน้ำให้เร็วที่สุด

ธรรมนัสบัญชาการภาคสนามหลังประชุมร่วมรัฐบาล


ภายหลังประชุมร่วมกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ผ่านระบบ Video Conference ที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกลาโหมส่วนหน้า ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า สถานการณ์ในหลายจุดวิกฤตจนโรงพยาบาลบางแห่งถูกตัดไฟ และผู้ป่วยฉุกเฉินจำเป็นต้องใช้ออกซิเจน ทำให้ต้องจัดตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจในพื้นที่หาดใหญ่ โดยตนจะปฏิบัติงานภาคสนามจนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย

หน่วยงานด้านความมั่นคง เช่น กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ได้รับคำสั่งจาก พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าพื้นที่ทันที ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดศูนย์ประสานงานที่โรงแรมซิกเนเจอร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวควบคู่กัน


ปัญหากระแสน้ำเชี่ยวหนัก ทำเรือเข้าไม่ถึงหลายพื้นที่


หนึ่งในความท้าทายสำคัญคือกระแสน้ำแรงผิดปกติ โดย ร.อ.ธรรมนัส ยอมรับว่าเรือเจ็ตสกีและเรือท้องแบนหลายลำไม่สามารถฝ่าเข้าไปช่วยผู้ประสบภัยได้ บางชุมชนต้องรอความช่วยเหลือบนหลังคาบ้าน เนื่องจากน้ำจากอำเภอสะเดาไหลรวมกับมวลน้ำในอำเภอหาดใหญ่ ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นรวดเร็วและมีความลึกมากกว่าปกติ

เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รัฐได้จัดกำลังเพิ่มเติม ได้แก่ เรือเจ็ตสกีแรงม้าสูง เรือหางยาวของชาวประมง และเรือจาก หน่วยซีล ซึ่งออกปฏิบัติการในจุดที่กระแสน้ำไหลเชี่ยว พร้อมตั้งจุดประสานงานบนเส้นทางรถไฟ แบ่งพื้นที่ช่วยเหลือเป็นโซนตะวันออกและตะวันตก เพื่อเข้าถึงผู้ประสบภัยให้ได้รวดเร็วที่สุด


ระดมเฮลิคอปเตอร์–เปิดประตูระบายน้ำทุกบาน ลดระดับน้ำภายใน 3 วัน


เพื่อรองรับการช่วยเหลือในวงกว้าง หน่วยงานทหารทุกภาคส่วนจัดเฮลิคอปเตอร์รวมอย่างน้อย 10 ลำเพื่อเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ผู้ประสบภัย และลำเลียงสิ่งของจำเป็น นอกจากนี้ กรมชลประทาน ได้เปิดประตูระบายน้ำทุกบานเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ โดยประเมินว่า หากฝนลดลงตามที่ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ สถานการณ์จะคลี่คลายใน 3 วัน

อย่างไรก็ตาม การสื่อสารในหลายจุดยังประสบปัญหาจากการที่เสาส่งสัญญาณถูกกระสอบทรายทับ และไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ ทำให้ต้องเร่งแก้ไขและติดตั้งอุปกรณ์ชั่วคราวเพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้

มาเลเซียก็หนัก! น้ำท่วมกลันตันวิกฤต อพยพกว่า 15,000 คน

“ในหลวง” ทรงห่วงใยน้ำท่วม มีพระราชกระแสรับสั่งให้ทุกฝ่ายเร่งอพยพชาวบ้าน