เตือน “พรรคประชาชน” อย่าติดกับ “ทักษิณ” ชี้สมรภูมิ อบจ.เชียงใหม่มีโอกาสชนะ

“ธนพร” เตือน ในศึก อบจ.เชียงใหม่ พรรคประชาชนอย่าเล่นตามเกม “ทักษิณ” เชื่อมีโอกาสชนะ ด้าน “สมชัย” ชี้ การหาเสียงของเพื่อไทยมีจุดอ่อนที่อาจทำให้แพ้

การเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังคงน่าสนใจ เพราะลงมาเล่นเกมการเมืองท้องถิ่นชิงนายก อบจ. ด้วยตัวเอง โดย ณ วันนี้ ยังปราศรัยอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่

ที่น่าจับตาคือ การใช้ภาษาบนเวทีเชียงใหม่ของนายทักษิณในวันนี้ ที่มีการขึ้นมึงกู แต่พูดเป็นภาษาเหนือจนดูซอฟต์ลง และการช่วยหาเสียงในจังหวัดอื่น ๆ ที่ผ่านมา จะทำให้พรรคเพื่อไทยคว้าเก้าอี้นายก อบจ.เชียงใหม่ มาได้หรือไม่

“ทักษิณ” หาเสียงรุนแรง ผิดหรือไม่?

รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวในรายการ คุยข้ามช็อต ทางช่อง PPTV HD 36 วันที่ 24 ธ.ค. 67 ว่า อดีตนายกฯ ทักษิณตอนนี้ทุ่มทุนสร้างมาก ใช้พลังมหาศาล แต่อยากบอกว่านี่เป็นการกระทำที่เข้าข่าย “เสียสละ”

อาจารย์สมชัยบอกว่า “ยิ่งคุณทักษิณพูดแรงแค่ไหน ไม่ได้แปลว่าจะได้ผลตอบแทนด้วยคะแนนเสียงที่เพิ่มมากขึ้น แต่จะได้ผลตอบแทนเป็นคนอยากจัดการคุณทักษิณเพิ่มขึ้นแทน คุณทักษิณตอนนี้เหมือนหน่วยกล้าตาย เอาตัวเองไปเสี่ยงตาย”

อดีต กกต. เสริมว่า การออกมาทุ่มสุดตัวในทางการเมืองตอนนี้ของนายทักษิณทำให้คดีความต่าง ๆ เริ่มถูกรื้อฟื้นจริงจังอีกครั้ง ทั้งที่ถ้าอยู่บ้านเลี้ยงหลานทุกอย่างคงนิ่ง ไม่มีใครใส่ใจ

ส่วนประเด็นการหาเสียงของนายทักษิณที่ดุเดือดมากนั้น อาจารย์สมชัยเตือนว่า การพูดเอามันบางครั้งต้องระวัง ถ้ามันมากเกิน บางครั้งขาดการระมัดระวัง เพราะในกติการะเบียบการหาเสียง ไม่ว่าระดับท้องถิ่นหรือส่วนกลาง มีเรื่องห้ามใช้ถ้อยคำรุนแรง หรือทำให้เกิดความวุ่นวาย

“กรณีที่คุณทักษิณพูดที่เชียงใหม่ ถามว่ารุนแรงหรือไม่ ตอนเป็นภาษาเหนือฟังดูนุ่มนวล แต่พอมีคนแปลเป็นภาษากลาง มันแรงนะ แต่แรงแล้วผิดหรือไม่ อาจผิดระเบียบ แต่ระเบียบไม่มีผลบังคับลงโทษ แค่ผิดไปจากมาตรฐานเฉย ๆ เป็นการสร้างบรรทัดฐานการหาเสียงที่ดูไม่ถูกต้องนัก” อาจารย์สมชัยกล่าว

อดีต กกต. เสริมว่า การหาเสียงควรพูดจาด้วยเหตุผล ด้วยนโยบาย ลดการโจมตีกัน ลดการสาดเสียเทเสีย ยิ่งเป็นอดีตนายกฯ มาพูดจาลักษณะนี้ อาจสะท้อนมาตรฐานการเมืองไทย

อีกเรื่องที่อาจารย์สมชัยเตือนให้ต้องระวัง ไม่ว่าจะพรรคไหนก็ตาม นั่นคือ ทำการเอาเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการทำงานท้องถิ่นมาหาเสียง เช่น เอานโยบายรัฐบาลมาบอกว่า ถ้าอยากได้ต้องเลือกเบอร์นี้ อันนี้ผิด

“ท้องถิ่นต้องหาเสียงในการทำงานท้องถิ่น จะพัฒนาท้องถิ่นอย่างไร ไม่ใช่จะได้นู่นนี่ที่เป็นนโยบายรัฐบาล สามารถให้ใบเหลืองได้ เพราะเหมือนหาเสียงในลักษณะเป็นการโฆษณาหลอกลวงให้เข้าใจผิดในเชิงนโยบาย แต่ต้องดูด้วยว่าคนพูดคือใคร ถ้าผู้สมัครพูดเอง โดนใบแดงได้ แต่ถ้าเป็นคนช่วยหาเสียง คนนอก อาจโดนใบเหลือง” อาจารย์สมชัยกล่าว

“พรรคประชาชน” มีโอกาสชนะเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่?

ด้าน รศ.ธนพร ศรียากูล นักวิเคราะห์การเมือง กล่าวถึงการช่วยหาเสียงในจังหวัดเชียงใหม่ของอดีตนายกฯ ว่า เชียงใหม่เป็นสมรภูมิที่น่าสนใจ เพราะในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 พรรคประชาชนสามารถคว้า สส. ไปได้ถึง 7 ที่นั่งจาก 10 ที่นั่ง

อาจารย์ธนพรบอกว่า ที่พรรคประชาชน (ก้าวไกล) ชนะในตอนนั้นได้ เพราะในการดีเบตระหว่างพรรค พรรคก้าวไกลเน้นเรื่องปัญหาพื้นที่เชียงใหม่ เช่น ฝุ่น PM2.5

แต่ตอนนี้ในสนามนายก อบจ. พรรคประชาชนกำลังถูกนายใหญ่พยายามลากเข้าเกมอื่น ให้มาถกเถียงเรื่องอื่นที่ไม่ใช่ปัญหาของเชียงใหม่ ดังนั้นขอเตือนพรรคประชาชนว่าอย่าฮุบเหยื่อ นั่นไม่ใช่จุดแข็งในการเลือกตั้งปี 2566

“พรรคก้าวไกลตอนนั้นไม่มีดีเบตไหนเลยที่ไม่พูดเรื่องในพื้นที่ ทั้งการจราจร ปัญหาน้ำ ฝุ่น PM2.5 เมื่อวันนี้นายใหญ่โยนเหยื่อมา พูดเรื่องเงินหมื่น เรื่องโครงการบ้านเพื่อคนไทย นโยบายส่วนกลางทั้งนั้น พรรคส้มอย่าเล่นเกมตาม คุณได้ สส. ชนะเกือบยกจังหวัด เพราะท่านใช้ปัญหาพื้นที่เป็นตัวนำ ต้องยึดหลักนี้ไว้อย่างแน่วแน่” นักวิเคราะห์การเมืองบอก

อาจารย์ธนพรยังแนะนำว่า “ให้ถามกลับเลย ว่านายก อบจ. ทำอะไรตามที่คุณทักษิณมาหาเสียงได้บ้างหรือไม่ เงินหมื่นได้หรือไม่ สร้างบ้านได้หรือไม่ แก้หนี้ได้หรือไม่ เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ ที่นายใหญ่มาถพูดเรื่องพวกนี้เพราะต้องการกลบปัญหา เพราะตัวเองตอบไม่ได้ว่าจะแก้ฝุ่น PM2.5 อย่างไร กระทรวงพาณิชย์ยังเพิ่งประกาศนำเข้าข้าวโพดโดยไม่ห้ามผลิตผลที่มาจากการเผาอยู่เลย”

ด้านอาจารย์สมชัยมองว่า ในสนามเลือกตั้งท้องถิ่น การได้มาซึ่งคะแนนเสียงมักต้องมีเครือข่ายช่วยทำคะแนนในพื้นที่ ซึ่งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน ความเข้มแข็งเครือข่ายยังยกให้เพื่อไทยได้เปรียบกว่า

“สนามเชียงใหม่วันนี้ แม้พรรคประชาชนมี สส. 7 จาก 10 เขต แต่ไม่คิดว่าจะเป็นความได้เปรียบเท่าไร เพราะโครงข่ายการเมืองท้องถิ่นพรรคประชาชนยังสร้างไม่ทัน” อดีต กกต. กล่าว

แต่อาจารย์สมชัยมองว่าฝั่งเพื่อไทยเองมีจุดอ่อน นั่นคือเรื่องนโยบาย “คุณทักษิณลงพื้นที่ไปปราศรัยทำให้เกิดความคึกคัก ทำให้เห็นว่ามีแม่ทัพใหญ่มาแล้ว แต่ฟังจากปราศรัย มามุกเดียวทุกเวที ถามเรื่องยากจนหรือไม่ ยาเสพติดเยอะหรือไม่ ไปที่ไหนก็พูดสองเรื่องนี้ได้ทั้งประเทศ จากนั้นเอานโยบายรัฐบาลแพทองธารมาพูด มาขยายความซ้ำเรื่อย ๆ”

อาจารย์สมชัยบอกว่า การพูดแรง ๆ มีข้อดีคือได้ข่าว ได้กระแส ได้พื้นที่สื่อ แต่ด้านลบคืออาจมีเสียงตอบโต้หนักตามมา และคนอาจจะเริ่มคิดวิเคราะห์แล้วว่า สิ่งที่อดีตนายกฯ ทักษิณพูดมาไม่มีอะไรพัฒนาท้องถิ่นเลย

“ที่ต้องระวังคือ พูดเชื่อมนโยบายรัฐบาลกับเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อไรจบเมื่อนั้น เช่น พูดว่าถ้าอยากได้เงินหมื่นเลือกเบอร์นี้ จบเลย ไม่ใช่หน้าที่ อบจ. บางคนที่ขึ้นเวทีเคยหลุดปากพูดแล้ว” อาจารย์สมชัยกล่าว

อาจารย์ธนพรฟันธงว่า เลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เพราะประเมินจากข้อมูล พรรคประชาชนมีโอกาสชนะ

โดยนักวิเคราะห์การเมืองบอกว่า ก่อนหน้านี้ 1 เดือน การเลือกเทศกาลหนึ่งในชานเมืองเชียงใหม่ สายตรงนายใหญ่แพ้ ฉะนั้น ถ้าพรรคเจาะเรื่องปัญหาจังหวัด มุ่งไปตรงนั้น เรื่องปัญหาเชิงลึก อาจมีโอกาสชนะ

อาจารย์ธนพรมองว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะ อบจ. เชียงใหม่ จะได้ความมั่นใจแน่นอน ใจฟู เพราะเชียงใหม่ สส.พรรคประชาชนมากกว่า ถ้ามาทวงแชมป์ที่นี่ได้จะใจฟูมาก

แต่อาจารย์สมชัยแย้งว่า ถ้าเพื่อไทยชนะ ส่วนตัวมองว่าแค่เสมอตัว เพราะสมควรชนะอยู่แล้ว ด้วยโครงข่ายที่วางไว้ เคยแชมป์เก่า น่าจะมีโอกาสชนะมากกว่า แต่ถ้าแพ้ จะถือว่าเป็นความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่ เพราะคนจะมองว่า “ขนาดทักษิณลงพื้นที่ยังแพ้” อาจทำให้สะเทือนพอสมควร

ข้อมูล/ภาพ : พีพีทีวี

“บิ๊กป้อม” อวยพรปีใหม่ “สื่อมวลชน-ปชช.” ขอให้โชคดี มีความสุข

“ชาดา-ซาบีดา” ตัวแทนมอบเงินกว่า 4.8 ล้าน เด็กรักษาตัวรถบัสไฟไหม้