เมื่อวันที่ 9 ม.ค. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ว่า โครงการดังกล่าวขับเคลื่อนโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ซึ่งที่ผ่านมา สศค. มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินจำนวน 10,000 บาท ในรอบที่สอง จะมีอยู่ประมาณ 7-8 ข้อ อาทิ มีสัญชาติไทย ต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ มีรายได้ที่ยื่นภาษีไม่เกินปีละ 840,000 บาท มีเงินฝากรวมกันแล้วไม่เกิน 500,000 บาท ไม่เป็นผู้ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของกระทรวง พม. และที่สำคัญคือต้องไม่เคยได้รับเงินจำนวน 10,000 บาท ในรอบแรก ซึ่งขณะนี้ ทราบจากทางกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวง พม. ว่ามีผู้ที่เข้าลงทะเบียนในระบบแล้ว ประมาณ 5.5 ล้านคน การดำเนินการโอนเงินหรือว่ารายละเอียดเพิ่มเติมนั้น ต้องขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทาง สศค. กระทรวงการคลัง เพราะว่าทาง สศค. นั้น จะเป็นผู้นำในการดำเนินการในรอบที่สองนี้ ไม่ใช่กระทรวง พม.
นายวราวุธ กล่าวว่า แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ขอฝากถึงญาติพี่น้องของผู้สูงอายุที่คาดว่ามีสิทธิจะได้รับเงินในรอบที่สองนี้ว่า ขอให้ระวังมิจฉาชีพที่จะมาในรูปแบบต่าง ๆ เพราะวันนี้มิจฉาชีพมีการพัฒนาไปมาก มีทั้งมาในรูปแบบของจดหมายจากทางราชการ QR Code จากหน่วยงานราชการ หรือจากสถาบันการเงิน หรือโทรฯ เข้ามาในลักษณะแอบอ้างเป็นตำรวจ บางครั้งถึงขนาดวิดีโอคอลเข้ามา เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ถ้าหากสงสัยว่าอาจจะเป็นมิจฉาชีพมาหลอกลวง วิธีการง่ายที่สุดคือการวางหูโทรศัพท์ไป หรือถ้าเป็นเบอร์คนไม่รู้จักก็ไม่ต้องรับสาย และฝากไปยังพี่น้องผู้สูงอายุ ว่าเงิน 10,000 บาท ที่จะได้รับนั้น เป็นเงินงบประมาณที่ทางรัฐบาลได้จัดสรรให้ และขอให้ใช้เงินให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ที่สำคัญมากกว่านั้นคือขอให้ระวังมิจฉาชีพให้ดี ๆ

ข้อมูล/ภาพ : เดลินิวส์