ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ย้ำพรรคกล้าธรรมโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ระบุสมาชิกเป็นของจริง เปรียบตัวเองเป็นต้นไม้ใหญ่ทนแรงลม พร้อมรับการตรวจสอบทุกด้าน
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค กล้าธรรม ยืนยันความโปร่งใสของสมาชิกพรรค หลังถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องจำนวนสมาชิกมากที่สุดในประเทศ โดยระบุว่าทุกคนเป็น “ของจริง” ตรวจสอบได้ พร้อมเปรียบตนเองเป็น “ต้นไม้ใหญ่” ที่ย่อมมีนกและอีกามาอาศัยจำนวนมาก ย้ำการถูกโจมตีเป็นเรื่องปกติในเส้นทางการเมือง
พรรคกล้าธรรมยืนยันว่าสมาชิกเป็นของจริง ตรวจสอบได้
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กล่าวถึงกรณีที่มีข้อสงสัยว่าพรรค กล้าธรรม มีสมาชิกมากผิดปกติว่า สมาชิกทั้งหมดเป็นของจริงและสามารถตรวจสอบได้ โดยชี้ว่าพรรคของตนมีผลงานเป็นรูปธรรมในการทำงานเพื่อประชาชน ทำให้มีผู้สมัครสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากภาคใต้และกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มพรีมูฟที่นำรายชื่อกว่า 2,000 คนมาสมัครเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
เขาย้ำว่าความนิยมที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากการทำงานจริงของพรรคที่ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกล่าวว่า “เราทำงานให้ประชาชน สมาชิกจึงเพิ่มขึ้นทุกวัน พรรคอื่นอาจมีของปลอม แต่เรามีแต่ของจริง ตรวจสอบได้ทั้งหมด”
ตั้ง “วอร์รูมกล้าธรรม” เก็บข้อมูลทุกเรื่องทางการเมือง
เมื่อถูกถามถึงกรณีที่ นายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรคกล้าธรรม ออกมาเปิดเผยว่ามีพรรคการเมืองบางพรรคใช้เงินผู้ช่วย ส.ส. ไปสมัครสมาชิกพรรค ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า พรรคของตนได้ “ตั้งหลักได้แล้ว” และมีการจัดตั้ง วอร์รูม เพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึกในทุกเรื่องทางการเมือง โดยมี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ทำหน้าที่ประธานยุทธศาสตร์ของพรรค
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า จากนี้ตนและหัวหน้าพรรคจะไม่จำเป็นต้องพูดทุกประเด็น เพราะมีทีมยุทธศาสตร์และวอร์รูมทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเป็นระบบ “ถ้าอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม ก็ให้ไปถามน.อ.อนุดิษฐ์ได้เลย” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
ธรรมนัสเปรียบตนเป็น “ต้นไม้ใหญ่” ย่อมมีนกอีกามาอาศัย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสโจมตีที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ร.อ.ธรรมนัสตอบพร้อมรอยยิ้มว่า การตกเป็นเป้าของการโจมตีเป็นเรื่องปกติของนักการเมือง โดยชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ใกล้บริเวณทำเนียบรัฐบาล พร้อมเปรียบตัวเองว่า “ต้นไม้ใหญ่ย่อมมีนก มีอีกา และสัตว์ต่าง ๆ มาอาศัยมากมาย บางชนิดก็ร้องเพลงไพเราะ แต่บางตัวอาจทำร้ายผู้อื่น ซึ่งก็ต้องยอมรับได้”
เขาย้ำว่าในฐานะนักการเมืองต้องไม่ซีเรียสกับเสียงวิจารณ์ เพราะทุกอย่างเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตรวจสอบในระบอบประชาธิปไตย “เราเป็นนักการเมือง ต้องพร้อมให้ตรวจสอบทั้งจากข้อกล่าวหาและข้อเท็จจริง” ธรรมนัสกล่าว
มองการโจมตีครั้งนี้ “เบามาก” หลังผ่านศึกการเมืองมานับครั้งไม่ถ้วน
เมื่อถูกถามว่าการถูกกล่าวหาครั้งนี้ถือว่าหนักหนาหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบอย่างมั่นใจว่า “ไม่เลย ครั้งนี้ถือว่าเบามาก” พร้อมระบุว่าตนผ่านเหตุการณ์การเมืองมาอย่างโชกโชน ตั้งแต่เริ่มต้นเส้นทางสู่การเมืองจนถึงปัจจุบัน
“ผมเจอมาหมดแล้ว ทั้งการถูกกล่าวหา การตรวจสอบทางกฎหมาย ทุกอย่างผ่านกระบวนการยุติธรรมมาแล้ว” เขากล่าว พร้อมย้ำว่าไม่ได้ต้องการ “ชน” กับใคร แต่จะยืนอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงเสมอ “ถ้าใครกล่าวหา ก็ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าคำกล่าวหานั้นไม่เป็นจริง”
