วันที่ 25 มิถุนายน 2568 ที่รัฐสภา น.ส.รักชนก ศรีนอก (ไอซ์) ส.ส. พรรคประชาชน แถลงข่าวดุเดือด วิจารณ์ กสทช. ในกรณีการจัดประมูลคลื่นความถี่ โดยชี้ว่าราคาตั้งต้นต่ำเกินจริงจนเอื้อประโยชน์กลุ่มทุน พร้อมตั้งข้อสงสัยถึงคุณสมบัติของ ศ.นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาดำเนินการทางกฎหมาย โดยเฉพาะการพิจารณายื่นปลดประธาน กสทช. ตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
แฉประมูลคลื่นราคาต่ำ ไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง
น.ส.รักชนกระบุว่าคลื่นความถี่ 2,100 MHz ราคาสัญญาเช่าเก่ากับ NT เคยสูงถึง 12,000 ล้านบาท แต่กำหนดราคาประมูลใหม่เพียง 4,500 ล้านบาท เท่านั้น สำหรับคลื่น 2,300 MHz เคยเช่าที่ราคา 7,300 ล้านบาท แต่ครั้งนี้ตั้งประมูลอยู่ที่ 2,600 ล้านบาทเท่านั้น เธอให้ความเห็นว่า “ราคาตั้งต้นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน” และตั้งคำถามว่าทำไม กสทช. จึงยึดอ้างราคาตั้งต้นเมื่อสิบปีก่อน ทั้งที่สถานการณ์โทรคมนาคมเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
ยิ่งกว่านั้น ไอซ์ยังกล่าววิจารณ์ว่า การตั้งราคาประมูลต่ำอาจทำให้ผู้ให้บริการมือถือไม่จำเป็นต้องแข่งลดราคา หรือปรับคุณภาพบริการที่ดีขึ้น เพราะไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ขณะที่ผู้บริโภคยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้จากราคาคลื่นที่ถูกลง

สงสัยคุณสมบัติประธาน กสทช. ยังดำรงตำแหน่งได้อย่างไร?
น.ส.รักชนกพุ่งเป้าไปที่ ศ.นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ตั้งคำถามถึงคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งประธาน กสทช. เธอยกข้อสรุปจากรายงานของ กมธ.สภาว่า ประธาน กสทช. ขาดคุณสมบัติตามกฎหมาย พร้อมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามกฎหมายยื่นเรื่องปลดฟ้าผ่าทันที
ยังไม่มีคำชี้แจงจากฝ่าย กสทช. หรือประธานเอง แต่ประเด็นดังกล่าวสะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจต่ออำนาจในองค์กรอิสระ ที่สังคมตั้งข้อสงสัยและต้องการคำตอบ
จี้นายกฯ ใช้อำนาจตามกฎหมายจัดการ
ไอซ์ระบุว่า จะเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตราใน พ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่ และ พ.ร.บ.องค์กรอิสระอื่น ๆ เพื่อปลดประธาน กสทช. ทันที เธอชี้ว่านายกฯ ต้องไม่เพิกเฉย และหากไม่ดำเนินการก็เท่ากับเป็นการสนับสนุนคนที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ “ถ้าท่านไม่จัดการ จะเรียกร้องทุกสัปดาห์” และชี้ว่าการกระทำของประธาน กสทช. แสดงให้เห็นว่าเป็นองค์กรเพื่อกลุ่มทุน ไม่ใช่เพื่อประชาชน
องค์กรอิสระ อิสระเกินไป?
การแถลงของ ไอซ์ เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสกดดันองค์กรอิสระในรัฐสภา ทั้งจาก กมธ.สภา และฝ่ายค้านที่เรียกร้องความโปร่งใสในการจัดตั้งองค์กร การตั้งคำถามต่อคุณสมบัติของประธาน กสทช. สะท้อนถึงการใช้กลไกสภาเพื่อตรวจสอบอำนาจองค์กรอิสระมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีเสียงจากสังคมว่า หากรัฐบาลไม่เร่งตรวจสอบและแก้ไข จะยิ่งทำให้เกิดความสูญเสียต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคม และความเชื่อมั่นของประชาชน