น.ส.รักชนก ศรีนอก ชี้แจงกรณีทรัพย์สินจักรยาน พร้อมเปิดข้อมูลบัญชีทรัพย์สินและคดีเก่าที่เชื่อมโยงกับไผ่ ลิกค์ ตั้งข้อสงสัยเหตุยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรีหลายรัฐบาล
หลังเกิดกระแสตรวจสอบกรณีไม่แจ้งทรัพย์สินประเภทจักรยานของ น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กรุงเทพ พรรคประชาชน ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 เธอออกมาชี้แจงอย่างละเอียด พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงเหตุผลที่ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคกล้าธรรม ซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคระดับแถวหน้า กลับยังไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีในหลายรัฐบาลที่ผ่านมา โดยตั้งคำถามว่าประเด็นทางกฎหมายและข้อมูลในบัญชีทรัพย์สินอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่สังคมควรได้รับคำตอบ
ชี้แจงปมบริจาคเงิน–ทรัพย์สินจักรยานไม่ถึงเกณฑ์ต้องแจง
น.ส.รักชนกอธิบายว่า เงินบริจาคจำนวน 200,000 บาทที่มอบให้พรรคประชาชน เป็นการสนับสนุนด้วยเจตนาช่วยเหลือ เนื่องจากพรรคมีข้อจำกัดด้านงบประมาณและไม่ได้รับทุนสนับสนุนจากกลุ่มทุนใหญ่ เธอย้ำว่าการบริจาคเป็นไปตามกำลังรายได้ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และพร้อมให้ตรวจสอบทุกขั้นตอนหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม
ประเด็นเรื่องจักรยาน เจ้าตัวระบุว่า มูลค่ารวมของจักรยานทุกคันที่ครอบครองไม่ถึง 200,000 บาท ซึ่งเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำของการต้องแจ้งในบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ส่วนการแจงทรัพย์สินประเภทหนังสือ เพราะรวมมูลค่าแล้วแตะหลักแสน และอาจเพิ่มขึ้นในอนาคต จึงเห็นว่าควรเปิดเผยเพื่อความโปร่งใส
รักชนกชี้ประเด็นบัญชีทรัพย์สินของไผ่ ลิกค์ น่าตรวจสอบกว่า
น.ส.รักชนกตั้งข้อสังเกตว่า ประเด็นที่ควรถูกพูดถึงมากกว่า คือข้อมูลบัญชีทรัพย์สินของนายไผ่ ลิกค์ เธอกล่าวว่าในสังคมยังตั้งคำถามถึงบทบาทการทำงานของนายไผ่ รวมถึงอดีตที่เคยถูกกล่าวถึงในข่าวพื้นที่สืบสวนเกี่ยวกับรถหรูและคดีของเครือข่ายนำเข้ารถยนต์หรู แม้เจ้าตัวจะได้รับการยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการยาเสพติดก็ตาม
เธอทบทวนคดีที่ปรากฏในคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งระบุชัดว่า นายไผ่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจรถยนต์ร่วมกับนักธุรกิจนำเข้ารถหรูที่ถูกพิพากษาจำคุก ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าหนี้สินที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวควรถูกบันทึกไว้ในบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ และมีการแจ้งข้อมูลครบถ้วนตามกฎหมายหรือเปล่า
ย้ำข้อกฎหมายเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สิน–หนี้สินต่อ ป.ป.ช.
จากการตรวจสอบข้อมูลบัญชีทรัพย์สินของนายไผ่ ทั้งในช่วงพ้นตำแหน่งและช่วงเข้ารับตำแหน่งในปี 2566 พบว่ามีการแจ้งหนี้สินหลายรายการ แต่ไม่ปรากฏหนี้ตามคำพิพากษาคดีแพ่งที่ศาลจังหวัดอุดรธานี ซึ่งพิพากษาให้ต้องชำระหนี้จำนวน 550,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย โดยคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
น.ส.รักชนกตั้งคำถามว่า การไม่ระบุหนี้ดังกล่าวในบัญชีทรัพย์สินอาจเข้าข่ายไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. ซึ่งกำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามความเป็นจริงทั้งหมด หากพบว่ามีการปกปิดหรือแสดงข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจมีโทษถึงขั้นถูกตัดสิทธิทางการเมืองอย่างถาวร
คำถามถึงบทบาทของ ป.ป.ช.–ตร.–และเหตุผลที่ไผ่ไม่ถูกปรับขึ้นเป็นรัฐมนตรี
น.ส.รักชนกระบุว่า เธอเตรียมทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกองบังคับการปราบปราม และสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อสอบถามการตรวจสอบข้อมูลตามคำพิพากษาคดีต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับนายไผ่ ว่ามีการตรวจสอบข้อเท็จจริงครบถ้วนหรือไม่
พร้อมกันนี้ เธอทิ้งท้ายด้วยข้อสงสัยว่า แม้นายไผ่จะเป็นเลขาธิการพรรคกล้าธรรมและมีชื่อเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีหลายรอบ แต่กลับไม่ได้รับตำแหน่งในรัฐบาลใด ซึ่งอาจมีสาเหตุที่สังคมควรได้คำตอบจากผู้เกี่ยวข้อง และควรได้รับการชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาเพื่อคลายข้อกังขา
ไผ่ ลิกค์ตอบโต้ยืนยันความบริสุทธิ์ รอฟังคำชี้แจงอย่างเป็นทางการ
ภายหลังโพสต์ของน.ส.รักชนกไม่นาน นายไผ่ ลิกค์ออกมาชี้แจงผ่านโซเชียล โดยระบุว่าเขามั่นใจในความบริสุทธิ์ และเห็นว่าการนำคดีของบุคคลอื่นซึ่งถูกศาลยกฟ้องแล้วมาใช้ในเกมการเมืองเป็นเรื่องไม่เหมาะสม พร้อมเผยว่าจะออกมาชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดต่อสาธารณะในลำดับถัดไป


