“ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษก พรรคประชาชน ออกมาขอบคุณ พรรคภูมิใจไทย ที่เข้าร่วมฝ่ายค้าน เตรียมเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตาม มาตรา 151 พร้อมเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ สมเด็จฮุน เซน ที่แสดงความเห็นว่าไทยจะมีนายกฯ ใหม่ภายใน 3 เดือน โดยย้ำว่าการอภิปรายต้องรัดกุม เพื่อรักษานิติธรรมของสภา

พริษฐ์กล่าวขอบคุณภูมิใจไทยที่เชิญพรรคประชาชนร่วมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลตาม มาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ เขาเน้นว่าพรรคฝ่ายค้านต้องใช้กลไกนี้เป็นเครื่องมือในการตรวจสอบรัฐบาลและแก้ปัญหาให้ประชาชน ไม่ใช่แค่เพื่อเกมส์การเมือง

เขาชี้ว่ามาตรานี้ใช้ได้ปีละ 1 ครั้ง จึงต้องวางแผนให้ “จังหวะเหมาะสม” เพื่อให้การอภิปรายมีพลังและนำไปสู่การแก้ไขจริง ไม่ใช่แค่การแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง

ฝ่ายค้านสามัคคี?

เรื่องนี้สะท้อนภาพที่ พรรคภูมิใจไทย กำลังถอยออกจากเส้นแบ่งรัฐบาล-ฝ่ายค้านอย่างชัดเจน พริษฐ์ระบุว่าการร่วมยื่นอภิปรายครั้งนี้เป็นสัญญาณที่ดี แต่ต้องมีการพูดคุยร่วมกับฝ่ายค้านพรรคอื่นเพื่อกำหนดจังหวะที่เหมาะสม และย้ำว่าเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอหากไม่มีการดำเนินงานจริงในสภา

พริษฐ์ย้ำว่าการใช้ มาตรา 151 ต้องเป็นไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ไม่ใช่ใช้จับผิดอย่างไม่รอบคอบ โฆษกพรรคประชาชนระบุว่า พื้นฐานของการใช้มาตรานี้คือหลักฐานชัดเจน และถ้าถูกยื่นญัตติจริง รัฐบาลต้องตอบคำถามต่อสาธารณะ พร้อมชี้ว่ามาตรานี้ถือเป็น “อาวุธ” ที่ต้องใช้อย่างระมัดระวังและมีเป้าหมายชัดเจน

เตือนประชาชนให้ใช้วิจารณญาณ อย่าหลงเชื่อฮุนเซน

พริษฐ์ยังออกมาเตือนส่วนตัวว่า ประชาชนไทยไม่ควรหลงเชื่อคำกล่าวของ สมเด็จฮุน เซน อดีตผู้นำกัมพูชา ที่ระบุว่าประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีใหม่ภายใน 3 เดือน โดยชี้ว่าควรมีการใช้วิจารณญาณ ไม่ให้อิทธิพลจากอดีตผู้นำต่างประเทศส่งผลต่อการตัดสินใจทางการเมืองในประเทศ

เขาเตือนว่าหากให้ต่างชาติมามีบทบาทชี้นำ อาจนำไปสู่การบิดเบือนทางความจริงทางการเมือง และส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของประเทศ

ขอคุยฝ่ายค้านก่อนหาจังหวะยื่นอภิปราย

พริษฐ์อธิบายว่าขณะนี้รอการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญใหม่ในวันที่ 3 กรกฎาคม โดยขณะนั้นฝ่ายค้านจะหารือร่วมกันทั้งกับพรรคภูมิใจไทยและพรรคอื่นเกี่ยวกับจังหวะการยื่นญัตติอภิปราย พร้อมย้ำว่าข้อกล่าวหาต่อรัฐบาลมีหลายประเด็น ไม่จำกัดเพียงคลิปเสียงระหว่างนายกฯ กับฮุนเซนเท่านั้น