นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เข้าทำเนียบรัฐบาลแต่เช้า หารือ “บิ๊กเล็ก–ปลัดกห.–ปลัดมท.” ก่อนเป็นประธานประชุม กอ.รมน. ครั้งที่ 1/2569 วางกรอบยุทธศาสตร์ความมั่นคงปีใหม่
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่เวลา 07.49 น. เพื่อหารือร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงระดับสูง อาทิ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ก่อนเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ครั้งที่ 1/2569 ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ถนนนครราชสีมา
นายกฯ ประชุมหน่วยความมั่นคง เตรียมถกปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
บรรยากาศช่วงเช้าที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เป็นไปอย่างคึกคัก เมื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจแต่เช้า โดยมีการประชุมหารือภายในกับผู้นำหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ก่อนเข้าประชุม กอ.รมน. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของปีงบประมาณ 2569
การหารือเบื้องต้นครอบคลุมถึงสถานการณ์ด้านความมั่นคงภายในประเทศ รวมถึงประเด็นปัญหา ชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งเป็นประเด็นละเอียดอ่อนในช่วงนี้ หลังมีเหตุความไม่สงบและประเด็นทางการเมืองในพื้นที่ชายแดน โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานข้อมูลเชิงลึก เพื่อกำหนดแนวทางรับมือและประสานความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างรอบคอบ
บิ๊กเล็ก-ปลัดกห.-ปลัดมท. ร่วมประชุมพร้อมหน้า
การประชุมในวันนี้มีผู้เข้าร่วมระดับสูงหลายราย อาทิ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ ปลัดกระทรวงกลาโหม, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
ทั้งนี้ การประชุม กอ.รมน. ครั้งที่ 1/2569 มีกำหนดเริ่มในเวลา 09.30 น. ณ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ถนนนครราชสีมา เขตดุสิต โดยนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่เป็นประธาน เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา และวางแนวทางนโยบายความมั่นคงในปีงบประมาณใหม่
ประชุม กอ.รมน. วางกรอบยุทธศาสตร์ความมั่นคงปี 2569
การประชุม กอ.รมน. ในครั้งนี้คาดว่าจะเน้นการปรับยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งด้านความมั่นคงภายในประเทศ การบริหารจัดการชายแดน การต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการประสานความร่วมมือด้านความมั่นคงกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน
แหล่งข่าวในทำเนียบรัฐบาลเผยว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงภายในประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับประเด็นเศรษฐกิจ สังคม และการทูต พร้อมย้ำว่าการบริหารจัดการต้องตั้งอยู่บนหลักของกฎหมายและการเคารพสิทธิมนุษยชน


